....#จากหนังสือความทรงจำที่เมืองเชียงตุงของเจ้านางสุคันธา กล่าวไว้ว่า....ชั้นบนของหอคำเป็นห้องพักของเจ้าฟ้าก้อนแก้วฯ ซึ่งลูกๆของท่าน เรียกว่า "ฟ้าหม่อม"

... ถัดมาเป็นห้องพักของพระมเหสีหรือเจ้าแม่เมือง คือ แม่เจ้าปทุมมหาเทวี  ธิดาเจ้าฟ้าเมืองสิงห์ แล้วจึงเป็นห้องพักของชายาคนรองๆ ที่ชาวเชียงตุงเรียกกันว่า "นางฟ้า" (ในเวลาต่อมาได้มีการสร้างหอหรือวังให้นางฟ้าแต่ละองค์พำนักให้เป็นสัดส่วนใกล้ๆกับหอคำ)

.... นอกจากนี้ชั้นบนของหอคำยังเป็นห้องพระคลัง "ห้องเงินเมือง" สมัยนั้นเชียงตุงยังใช้เงินรูปีของจักรวรรดิบริเตนอินเดีย

....ภายในหอคำยังมี "หอเทวดา" ซึ่งมีโต๊ะใหญ่ตั้งเครื่องบูชา ชาวเชียงตุงมีความเชื่อและศรัทธาในการบูชาเทวดากันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

....#เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในเชียงตุง รัฐบาลย่างกุ้งได้ส่งคนมาปกครองแทนเจ้าฟ้า ในระยะแรกหอคำได้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำงานของหลายหน่วยงาน

...แต่ก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับผู้ที่มาทำงานและพักอาศัยที่นี่ จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

.... จนกระทั่งถึงปี2534 รัฐบาลย่างกุ้งได้ตัดสินใจ สั่งรื้อ "หอคำ" เพื่อสร้างเป็นโรงแรม โดยใช้ชื่อว่า นิวเชียงตุง แต่กิจการล้มลุกคลุกคลานเรื่อยมา

...จนต้องเปลี่ยนผู้รับสัมปทานและผู้บริหารหลายครั้ง... จวบจนปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้ เปลี่ยนชื่อเป็น? "อเมซิ่งเชียงตุงรีสอร์ท"

...นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงตุง สามารถพบเห็นสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่ยุคเจ้าฟ้าในบริเวณที่เคยเป็นหอคำ คือ บ่อน้ำขนาดใหญ่ภายใน สำหรับต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปีมีให้พบทั้งไม้ผล เช่น ต้นลำไย ต้นมะม่วง ต้นมะพร้าว ฯลฯ ส่วนไม้ดอกก็มี เช่น ต้นพะยอม ต้นพิกุล ต้นดอกสีม่วงฯ #และที่พบเห็นอย่างชัดเจนที่สุดคือ กำแพงของวังเดิมที่ยังคงมนต์เสน่ห์

.... และถ้าหากได้มาเดินบริเวณสระว่ายน้ำ?ของโรงแรม จะพบต้นลั่นทมขนาดใหญ่นับสิบต้น กลีบดอกลั่นทมสีขาวจะหล่นเรียงรายอยู่บนพื้นหญ้า ส่งกลิ่นหอมทำอบอวล ทำให้นึกถึงละครเรื่องบ่วงบรรจถรณ์ที่ออกอากาศทางช่อง3ขึ้นมาทันทีครับ

Cr.หนังสือในอนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพเจ้านางสุคันธา ณ.เชียงใหม่.